เปรียบเทียบ 3 วิธีล้างแอร์รถญี่ปุ่น พร้อมข้อดีข้อเสียที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน

4

การล้างแอร์รถญี่ปุ่น เปรียบเสมือนการ “เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง” ของระบบปรับอากาศ เพราะนอกจากจะช่วยให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การล้างแอร์รถให้สะอาดอย่างเป็นประจำสม่ำเสมอ ยังช่วยให้แอร์เย็นฉ่ำ ประหยัดน้ำมัน และป้องกันปัญหาสุขภาพจากฝุ่นละอองและเชื้อโรคที่ผู้ขับขี่อาจจำเป็นต้องหายใจตลอดเวลาที่ขับรถด้วย

ล้างแอร์รถญี่ปุ่น

ทั้งนี้ การล้างแอร์รถญี่ปุ่นก็มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีรายละเอียดปลีกย่อยและเงื่อนไขแตกต่างกันออกไป วันนี้เราเลยอยากมาเปรียบเทียบให้ดู 3 วิธี จะมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง มาดูพร้อมกันข้างล่างนี้เลย!

วิธีที่ 1  ล้างแอร์แบบไม่ถอดตู้

วิธีล้างแอร์แบบไม่ถอดตู้ เป็นวิธีการล้างแอร์รถญี่ปุ่นที่เหมาะสำหรับรถใหม่หรือรถที่ล้างแอร์เป็นประจำทุกปีหรือล้างอย่างสม่ำเสมอ โดยวิธีการล้างแอร์ประเภทนี้ช่างจะใช้เครื่องมือพิเศษฉีดน้ำยาล้างแอร์เข้าไปในตู้แอร์ ทำให้ไม่จำเป็นต้องถอดตู้แอร์ออกมา

ข้อดี

  • สะดวก รวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องต้องถอดตู้แอร์ให้เสียเวลา
  • ใช้เวลาแค่ประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง
  • ราคาถูก เริ่มต้นประมาณ 500 บาท

ข้อเสีย

  • อาจทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง เนื่องจากไม่ได้ถอดตู้แอร์ออกมาทำความสะอาดอย่างละเอียด
  • ไม่สามารถขจัดคราบสกปรกฝังลึกได้
  • เหมาะสำหรับรถที่ใช้งานไม่หนัก

วิธีที่ 2 ล้างแอร์แบบถอดตู้

วิธีล้างแอร์แบบไม่ถอดตู้ เป็นรูปแบบการล้างแอร์รถญี่ปุ่นที่เหมาะสำหรับรถเก่าหรือรถที่ใช้งานหนัก โดยช่างจะถอดตู้แอร์ออกมาล้างทำความสะอาดอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุม  เนื่องจากรถที่ผ่านการใช้งานมานาน ย่อมสะสมคราบสกปรกฝังลึก ประกอบกับประเทศไทยกำลังอยู่ในภาวะฝุ่น PM2.5 แพร่ระบาดอย่างรุนแรงด้วย ดังนั้น การล้างแอร์ด้วยวิธีนี้จึงเป็นวิธีที่ดีกว่าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีคราบฝุ่น หรือสิ่งสกปรกตกค้างที่อาจเป็นอันตรายแก่เจ้าของรถที่ใช้แอร์ได้

ข้อดี

  • ทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง
  • ขจัดคราบสกปรกฝังลึกได้ รวมถึงคราบฝุ่นที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพผู้ขับขี่
  • เหมาะสำหรับรถที่ใช้งานหนัก หรือผ่านการใช้งานมานาน

ข้อเสีย

  • ใช้เวลานาน ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
  • ราคาค่อนข้างสูง เริ่มต้นประมาณ 1,500 บาท

วิธีที่ 3 ล้างแอร์แบบใช้น้ำยาโฟม

วิธีล้างแอร์แบบใช้น้ำยาโฟมเป็นวิธีรูปแบบใหม่ที่ใช้โฟมล้างแอร์แทนน้ำยา โดยช่างจะฉีดโฟมล้างแอร์เข้าไปในตู้แอร์ เพื่อให้โฟมขยายตัวและดูดซับคราบสกปรก

ข้อดี

  • สะดวก รวดเร็ว
  • ใช้เวลาประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง
  • ราคาปานกลาง เริ่มต้นประมาณ 1,000 บาท

ข้อเสีย

  • ประสิทธิภาพการทำความสะอาดอาจไม่ดีเท่าการล้างแบบถอดตู้
  • โฟมล้างแอร์บางชนิดอาจมีสารเคมีที่เป็นอันตราย

จะเห็นได้เลยว่าไม่มีวิธีล้างแอร์รถญี่ปุ่นวิธีไหนที่ดีที่สุด หรือเหมาะสมที่สุด เพราะแต่ละวิธีต่างก็เหมาะกับอายุรถ การใช้งานและงบประมาณที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น ก่อนเลือกล้างแอร์ แนะนำให้ตรวจสอบสภาพรถและหาข้อมูลข้อดีข้อเสียของแต่ละวิธีอย่างละเอียดก่อน ก็จะช่วยให้การล้างแอร์คุ้มค่าและไม่มีปัญหาเกิดขึ้นในอนาคตได้

Previous article6 เหตุผลที่ควรดาวน์โหลด metatrader 4 นักเทรดตัวจริงต้องรู้!
Next article4 เทคนิคการหางานโรงแรมให้ได้งานเร็ว เงินดี สวัสดิการแน่น