วิธีเลือกซื้ออาหารกระป๋องอย่างไร ให้ปลอดภัย ได้คุณภาพ

จะเรียกว่าความชาญฉลาดของมนุษย์ที่สามารถถนอมอาหารไว้ทานได้นานขึ้นแม้แต่ในช่วงนอกฤดูของอาหารประเภทนั้น เริ่มจากการ ตากแห้ง ดอง หมัก  เป็นต้น แต่เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับชีวิตเรามากขึ้น อาหารถูกถนอมอยู่ในกระป๋อง ทำให้เราสามารถได้รับประทานอาหารทุกๆอย่างที่ถูกบรรจุในกระป๋อง รวมทั้งอาหารจากต่างประเทศ เราก็สามารถหาซื้อมาทานได้ง่ายๆ  และเพื่อความปลอดภัยในการเลือก อาหารกระป๋อง เรามีวิธีและหลักการเลือกมาฝากคะ

อาหารกระป๋องหรืออาหารสำเร็จรูปในปัจจุบันนั้นมีหลากหลายรูปแบบ หากจำแนกเป็นวัตถุดิบหรือหีบห่อ ก็มีตั้งแต่ พลาสติก ขวดโหล และรูปแบบที่มีมานานอย่างอาหารกระป๋อง ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ชีวิตเราทันสมัย พร้อมยังทำให้อาหารเป็นเรื่องง่ายของคนยุคใหม่ มาดูกันว่าอาหารกระป๋องที่ดีควรเลือกซื้อเป็นแบบไหน มีจุดสังเกตุ และมีเรื่องน่าสนใจอย่างไรบ้าง

วิธีเลือกซื้ออาหารกระป๋อง โดยการสังเกตุจากภายนอก

1. สภาพอาหารกระป๋อง อาหารกระป๋องมีด้วยกันหลายรูปทรง ไม่ว่าจะเป็นทรงกลม ทรงเหลี่ยม ทรงรี เป็นต้น ไม่ว่ากระป๋องทรงไหนๆ เราจำเป็นต้องดูว่ารูปทรงกระป๋องนั้นคงรูปทรงเดิมหรือไม่ ไม่บุบเบี้ยว ไม่ยุบ ไม่บวม  บริเวณตะเข็บกระป๋องหรือรอยต่อ ต้องเรียบร้อย แน่นหนา ไม่มีรอยปิแยก และที่สำคัญอย่างยิ่งต้องไม่มีสนิมบนตัวกระป๋องเป็นอันขาดคะ ถ้าคุณเห็นว่าสภาพกระป๋องปกติก็ควรตรวจสอบต่อไปว่าหากคุณลองกดนิ้วลงบนฝากระป๋อง ก็ต้องไม่ยุบหรือบุบลงไปด้วยนะคะ

2. ฉลากบนกระป๋อง เป็นสิ่งที่คุณจำเป็นต้องอ่าน ห้ามละเลยเป็นอันขาดคะ บนฉลากจะบอกอะไรเราบ้าง เช่น

• ส่วนผสมส่วนประกอบ  คุณจำเป็นต้องอ่าน หากคุณแพ้ผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่ง เช่น นมวัว อาหารทะเล เห็ด เป็นต้น
• วันเดือนปี ที่ผลิต และวันหมดอายุ สิ่งที่เราทราบกันอู่แล้วว่าหากสินค้าหมดอายุไม่ควรซื้อมารับประทาน และหากคุณซื้ออาหารกระป๋องที่ใกล้จะหมดอายุมาก็ควรรรีบรับประทานทันทีอย่าเก็บไว้นานคะ
• รายละเอียดผู้ผลิต ต้องแสดงชื่อผู้ผลิตและแหล่งที่ผลิตอย่างชัดเจน หากเป็นหสินค้านำเข้าต้อง ระบุผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอาหารกระป๋องนั้น
• สัญลักษณ์ อย. เป็นการการันตีว่าอาหารกระป๋องนี้มีคุณภาพได้มาตราฐานและปลอดภัยต่อผู้บริโภค เพราะอาหารกระป๋องจะต้องได้รับกการตรวจสอบตามกระบวนการของ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (Food and Drug Administration) หากคุณต้องการตรวจสอบหมายเลข อย. ได้ที่ www.fda.moph.go.th
• สัญลักษณ์ BPA Free เป็นสารประกอบหลักของอิพอกซีเรซิน (Epoxy Resin) ที่เคลือบอยู่ภายในกระป๋อง ที่ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้อาหารสัมผัสกับโลหะโดยตรง หากได้รับสารนี้อย่างต่อเนื่องอาจส่งผลต่อระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายมนุษย์ได้ ซึ่งส่งผลต่อการเจริญและซ่อมแซมอวัยวะ เนื้อเยื้อได้ รวมทั้งการเจริญเติบโตของเด็กทารกในครรภ์มารดา

วิธีเลือกซื้ออาหารกระป๋อง โดยการสังเกตุจากภายใน

1. ลักษณะอาหารในกระป๋อง ควรสังเกตว่าอาหารในกระป๋องมีสภาพที่ต่างไปจากที่เคยรับประทาน หรือมีสภาพที่ไม่ควรจะเป็น เช่น สตอร์เบอรี่กระป๋องควรจะมีสีแดงจนแดงคล้ำ แต่หากมีสีดำหรือม่วง ก็ไม่ควรรับประทาน

2. กลิ่นของอาหาร หากอาหารในกระป๋องมีกลิ่นที่ผิดแปลกไปจากที่เคยรับประทาน หรือมีกลิ่นเหม็นบูดเน่า ก็ไม่ควรรับประทานหรือลองชิมคะ

3. ภายในกระป๋อง หากต้องการรับประทานอาหารกระป๋อง ควรเทอาหารออกจากกระป๋องเสียก่อน แล้วสังเกตดูภายในกระป๋องว่ามีสิ่งผิดปกติ อย่าง สนิม รอยถลอก หรือรอยด่างของโลหะ ก้ไม่ควรรับประทานอาหารในกระป๋องนั้นเด็ดขาด

4. ลม  หากคุณเปิดกระป๋องแล้วมีอากาศหรือลมพุ่งออกมาจากภายในกระป๋อง ไม่ควรทานอาหารนั้นคะ

5. สิ่งปนเปื้อน  หากคุณพบสิ่งปนเปื้อนซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรอยู่ในกระป๋อง คุณไม่ควรรับประทานอาหารกระป๋องนั้นคะ

อาหารกระป๋องที่มีสภาพไม่ปกติ ไม่ว่าจะบวม มีสนิม สภาพอาหารผิดเพี้ยนไป จัดว่าเป็นอาหารที่เสียแล้ว ไม่ควรรับประทาน เพราะอาหารเกิดการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์และแบคทีเรียชนิโบทูลินั่ม ซึ่งส่งผลต่อระบบประสาทอย่างรุนแรง เกิดอัมพาตของกล้ามเนื้อต่างๆ ลิ้นและคออักเสบ และหากรักษาล่าช้าอาจส่งผลต่อชีวิต ได้คะ

การรับประทานอาหารกระป๋อง จำเป็นต้องอุ่นให้เดือดก่อนรับประทาน และห้ามอุ่นอาหารทั้งกระป๋องโดยเด็ดขาดนะคะ

ข้อมูลอ้างอิง

เตือนอาหารกระป๋องบวมบุบเป็นสนิม เสี่ยงมีเชื้อโบทูลินั่ม: news.thaipbs.or.th
การเลือกซื้อ “อาหารกระป๋อง”: doctor.or.th
วิธีเลือกอาหารกระป๋องให้ปลอดภัย : – ต้องมีสัญลักษณ์ BPA IN (ปลอดสารเคลือบกระป๋อง) – มี อ.ย. – ไม่ขึ้นสนิท ไม่มีรอยบุบ – กลิ่นไม่เหม็น – วันหยดอายุชัดเจน: infographic.in.th
BPA คือสารอะไร พบได้ที่ไหนบ้าง: mtec.or.th