การไล่หนูด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่เรียกว่าเครื่องไล่หนู ซึ่งมีหลักการทํางาน โดยการใช้คลื่นอัลตร้าโซนิค ซึ่งเป็นคลื่นความถี่สูงส่งผลให้หนูทนไม่ได้ อุปกรณ์ดังกล่าวได้ผลจริงไหม คำถามนี้คงเกิดขึ้นกับผู้ที่ประสบปัญหาหนูทุกคน ที่กำลังมองหาวิธี ไล่หนูอื่นๆที่ไม่ต้องฆ่ามัน
การใช้งานที่ ง่ายเพียงแค่เสียบอุปกรณ์ เครื่องก็จะปล่อยคลื่นอัตโนมัติ ผู้ใช้ต้องเข้าใจ อย่างถ่องแท้ก่อนว่า เจ้าเครื่องนี้สามารถทำอะไรได้บ้างก่อนตัดสินใจซื้อ
ในปีพ.ศ 2544 คณะกรรมการการค้าแห่งสหพันธรัฐหรือ FTC ได้ส่งคำเตือนไปยังผู้ผลิตอุปกรณ์ ควบคุม สัตว์บุกรุกด้วยคลื่นความถี่สูง โดยเรียกร้องให้มีการ เปิดเผยข้อมูลประสิทธิภาพ จากผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์
ซึ่งเราต้องขอบคุณ การแทรกแซงของ FTC ทำให้ผู้ผลิตอุปกรณ์ไล่หนูและสัตว์บุกรุก มีการเพิ่มรายละเอียดและผลการทดลอง ลงในแพคเกจและข้อมูลในเว็บไซต์ มากขึ้น ทั้งวิธีการทดลองและผลลัพธ์ ที่ทำให้มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
ซึ่งงานวิจัยส่วนมากจะพบว่าไม่มีผลิตภัณฑ์ใดที่อ้างว่ามีประสิทธิภาพขับไล่สัตว์รบกวน ได้ 100% นั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ เพราะเราเข้าใจอยู่แล้วว่าเครื่องเหล่านี้ก็ไม่ใช่ของวิเศษ แต่ถึงไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ผลการทดลอง ก็ชี้ชัดว่า ทำให้สัตว์ รบกวน ลดน้อยลงอย่างมีนัยยะสำคัญ
ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับ สัตว์ฟันแทะ และแมลง จำพวกหนูและแมลงสาบ คือการใช้เครื่องไล่หนู ระบบอัลตร้าโซนิค ควบคู่ไปกับ กับดักอย่างอื่น พูดง่ายๆคือ คลื่นอัลตร้าโซนิคจะทำให้ สัตว์ บุกรุกเหล่านี้ที่อยู่กระจายไปทั่ว วิ่งเข้าไปในกับดัก ง่ายขึ้น
แต่ในระยะเวลานานๆ หนูอาจจะคุ้นเคยกับ คลื่นอัลตร้าโซนิค ปัจจุบันทางผู้ผลิตแก้ปัญหานี้ด้วยการใช้คลื่น แบบผสม คือ ระบบหลายความถี่ และเพิ่มคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเข้าไปด้วย เมื่อมีคลื่นที่หลากหลายขึ้น หนูก็ไม่สามารถคุ้นชินหรือปรับตัวได้ทำให้ เครื่องไล่หนูได้ผลในระยะยาว
แต่การไล่ด้วยคลื่นก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ เพราะคลื่นจะอ่อนลง เมื่อถูกกั้นด้วยเฟอร์นิเจอร์ผนังและมุมห้อง ดังนั้นสถานที่ที่ใช้งานก็ควรถูกปรับปรุงให้เรียบร้อย ไม่มีสิ่งกีดขวางมากจนเกินไป เพื่อไม่ให้ขวางทางเดินของคลื่นและเป็นที่อยู่อาศัยของหนูและสัตว์บุกรุกอื่นๆอีกด้วย
