เทรนด์การทำตาสองชั้นยังเป็นการศัลยกรรมอันดับต้นๆ ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะชาวเอเชียส่วนมากมีตาชั้นเดียว โดยการศัลยกรรมตาสองชั้นจะช่วยปรับลุคให้ใบหน้าดูมีชีวิตชีวา ดวงตากลมโตและดูเป็นสาวหวานมากขึ้น ซึ่งนอกจากการทำตาสองชั้นแบบกรีดและเย็บ 3 จุดแล้ว ยังมีเทคนิคการผ่าตัดด้วยการเปิดหัวตาและหางตาด้วย โดยแต่ละแบบก็จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ส่วนจะมีแบบไหนบ้างนั้นตามมาดูกันได้เลย จะได้เป็นตัวช่วยให้การทำศัลยกรรมตาสองชั้นง่ายขึ้น
การทำตาสองชั้นแบบกรีด
การศัลยกรรมตาสองชั้นด้วยวิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่มีไขมันบริเวณเปลือกตามาก มีตาสองชั้นแต่หลบใน หรือมีชั้นตาที่ไม่เท่ากัน ซึ่งวิธีนี้เป็นเทคนิคที่นิยมมากที่สุดด้วย โดยมีวิธีการผ่าตัด 2 แบบด้วยกัน คือ แบบกรีดแผลสั้น ซึ่งเป็นการผ่าตัดแผลเล็กขนาด 3-5 มิลลิเมตรเพื่อสร้างชั้นตาใหม่ และแบบกรีดแผลยาวที่แพทย์จะใช้ใบมีดกรีดหนังตาด้านนอกจากหัวตาไปถึงช่วงหางตา เพื่อเปิดหนังตาและนำไขมันส่วนเกินออก โดยแพทย์จะเลือกใช้วิธีนี้กับคนไข้ที่มีปัญหาหนังตาตก
การทำตาสองชั้นแบบเย็บ 3 จุด
เป็นเทคนิคการศัลยกรรมตาสองชั้นที่นิมยมอีกวิธีหนึ่ง โดยแพทย์จะเย็บเปลือกตาประมาณ 2-3 จุดเพื่อสร้างชั้นตาให้ดูโตและมีมิติมากขึ้นโดยไม่ได้ใช้มีดกรีด ซึ่งข้อดีของการทำตาด้วยวิธีนี้จะบวมน้อย พักฟื้นไม่นาน และไม่เห็นรอยแผลเป็น อย่างไรก็ตาม เทคนิคดังกล่าวก็มีข้อเสียเช่นกัน คือชั้นตาหลุดง่ายโดยเฉพาะคนที่มีเปลือกตาหนาและมีไขมันมาก และชั้นตาอาจหลุดได้เมื่อผ่านไประยะเวลาหนึ่ง นอกจากนี้ แพทย์ยังสามารถนำไขมันออกได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเทียบกับการผ่าตัดแบบกรีด ดังนั้น วิธีนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีเปลือกตาไม่หนามากและไม่เคยประสบภาวะหน้งตาตกมาก่อนเท่านั้น
การทำตาสองชั้นร่วมกับการเปิดหัวตาและหางตา
การศัลยกรรมตาสองชั้นด้วยวิธีนี้แพทย์จะดูความเหมาะสมของแต่ละบุคคล ซึ่งโดยปกติแล้ววิธีนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีหัวและหางตาปิด ซึ่งหมายถึงหนังของผิวตาบนหย่อนลงมาปิดหัวตาหรือหางตา ทำให้ตาดูแคบ ซึ่งเทคนิคการผ่าตัดด้วยวิธีนี้จะทำให้ดวงตาดูกลมโตขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ทั้งหมดนี้เป็นการทำตาสองชั้นที่ได้รับความนิยมอย่างมากในไทย ซึ่งนอกจากความต้องการของคนไข้แล้วแพทย์ยังต้องดูความเหมาะสมของแต่ละคนด้วย นอกจากนี้ ในบางรายแพทย์อาจทำการกรีดหนังตาและยกหางตาให้เฉียงขึ้นด้วย ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจศัลยกรรมตาสองชั้นควรศึกรายละเอียดให้รอบคอบและถี่ถ้วน ทั้งในเรื่องของความน่าเชื่อถือของแพทย์ คลินิก รวมไปถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังการผ่าตัด
