วิธีรักษาฝ้า ด้วยสมุนไพรพื้นบ้านแบบธรรมชาติ

646

❝ ฝ้า ❞ ปัญหาหนักสำหรับผิวหน้าเลยคะ สาวๆท่านใดที่มีฝ้ามักจะขาดความมั่นใจ พยายามรักษาอย่างไรก็ไม่หายขาด เสียเงินก็ไม่ใช่น้อย ฝ้าเป็นเม็ดสีเมลานินที่ถูกกระตุ้นด้วยคลื่นรังสียูวีจากแสงแดด จะมองเห็นเป็นสีน้ำตาลอมแดง มักเกิดตามบริเวร จมูก โหนกแก้ม หน้าผาก รวมทั้งความเครียด ยาคุม การตั้งครรภ์ กรรมพันธุ์ ฮอร์โมน เครื่องสำอาง ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดฝ้าได้คะ

ฝ้า

ฝ้า สามารถแบ่งออกได้ 2 ชนิด คือ ฝ้าที่เกิดในระดับตื้น เกิดขึ้นในระดับชั้นหนังกำพร้า และฝ้าที่เกิดในระดับลึกในระดับชั้นหนังกำพร้า ซึ่งจะรักษาให้หายขาดยากเพียงทำให้ฝ้าลดเลือนลงได้เท่านั้น

สำหรับวิธีรักษาฝ้าที่เราจะแนะนำนั้นจึงเหมาะกับฝ้าที่เกิดในระยะต้นๆ หรือเป็นฝ้าในระดับหนังกำพร้า มีมาให้หลายสูตรคะ

  • ว่านหางจระเข้ นำใบว่างหางจระเข้าที่เป็นใบแก่ นำมาล้างปอกเปลือกล้างยางให้สะอาด นำวุ้นที่ได้มาปั่นให้ละเอียด พอกหน้าทิ้งไว้ 20 นาที ทำประจำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
  • หัวไชเท้า นำหัวไชเท้ามาบดหรือปั่นให้ละเอียด แล้วนำมาพอกหน้าประมาณ 10-30 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำประจำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง หรือวันเว้นวัน แล้วกระชับรูขุมขนด้วยน้ำเย็น แต่หากรู้สึกแสบบริเวณที่พอกก็ให้รีบล้างออกก่อนเวลาได้คะ หัวไชเท้ามีสารไกลโคไซด์ (Glycossides) ที่อุดมไปด้วยกรดแอสคอบิก (Ascorbic Acid)และวิตามินเอ ซึ่งจะช่วยลดฝ้า กระ ได้อย่างเห็นผลชัดเจน เพราะกรดนี้จะช่วงยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิวที่มากจนเกินไป
  • น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ หรือน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล นำน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์มาผสมกับน้ำสะอาด แล้วใช้สำลีชุบและเช็ดหน้าให้ทั่วใบหน้า รอจนแห้งแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
  • น้ำมันมะพร้าว มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรค มีสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยกันแดดได้ระดับหนึ่ง ให้นำน้ำมะพร้าวมาทาให้ทั่วผิวหน้า หลังจากอาบน้ำเสร็จ ใช้เป็นประจำทุกวัน ยิ่งเห็นผลชัดเจนใน 2 สัปดาห์ สำหรับคนที่มีผิวหน้ามันอาจจะไม่ใช้น้ำมันมะพร้าวในตอนเช้าได้ เพราะหน้าอาจจะมันเยิ้มเกินไป
  • น้ำมันมะรุม นำมาทาให้ทั่วใบหน้า หลังล้างหน้า เช้า-เย็น ควรใช้เป็นประจำทุกวัน จะเห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่สัปดาห์ที่ 3-4 ขึ้นไปคะ ในน้ำมันมะรุมอุดมด้วยวิตามินซี โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส ที่จะช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกไป น้ำมันมะรุมจะมีไม่เหนียวเหนอะนะคะ
  • มะนาว นำน้ำมะนาว 1 ลูก ผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ผสมให้เข้ากัน แล้วนำมานวดให้ทั่วใบหน้า 2-3 นาที และพอกทิ้งไว้ 15-20 นาที ทำประจำ 3-4 วันต่อสัปดาห์ กรดเอเอชเอ (AHA) และวิตามินซี (C)ในมะนาวจะช่วยต้านอนุมูลอิสระ ผลัดเซลล์ผิวที่มีรอยหมองคล้ำและช่วยลดการเกิดสิวได้ด้วยคะ
  • ใบบัวบก จากการวิจัยพบว่าใบบัวบักสามารถช่วยรักษาโรคผิวหนังได้ โดยเฉพาะฝ้า กระ และสิว เพียงน้ำใบบัวบกมาปั่นให้ละเอียด แล้วนำน้ำใบบัวบกมาใช้เช็ดหน้าก่อนนอนเป็นประจำทุกคืน
  • หัวหอม นำมาฝานเป็นแว่นๆหรือคั้นเอาเฉพาะน้ำนำไปแช่ตู้เย็นเพื่อดับกลิ่นและลดความซ่าที่อาจทำให้แสบผิวหน้าได้ แล้วจึงนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
  • มะละกอ นำมะละกอมาบดผสมกับน้ำผึ้ง น้ำมะนาว(เล็กน้อย) ผสมให้เข้ากันก่อนนำมาพอกหน้า 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น ต่อด้วน้ำเย็นเพื่อกระชับรูขุมขน ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ในมะละกออุดมด้วยเอนไซม์ปาเปน มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นนอกได้ดี จึงทำให้ผิวหน้าสดใส เปล่งปลั่ง

ลองนำสูตรเหล่านี้ไปใช้กันดูนะคะ แต่อย่างไรก็คุณสาวๆก็ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดนตรง หรือควรใช้ครีมกันแดดเป็นประจำคะ

Previous articleสูตรมาร์คหน้า วิธีการพอกหน้า เพื่อแก้ไขปัญหาผิวให้ตรงจุด
Next articleท่าโยคะ สำหรับลดต้นขา เพื่อผู้หญิงขาเรียวโดยเฉพาะ